ความหมายของศิลปวิจารณ์
การวิจารณ์ผลงานศิลปะโดยเฉพาะงานจิตรกรรม และประติมากรรม นับเป็นสิ่งจำเป็นและมีประโยชน์อย่างยิ่ง ถ้าการวิจารณ์นั้นเป็นไปอย่างเที่ยวธรรมและผู้วิจารณ์มีความรู้ความสามารถรอบรู้โดยกระทำไปโดยถูกทำนองคลองธรรม ย่อมเป็นการสนับสนุนให้ผู้สร้างผลงานได้ทำงานก้าวหน้าอย่างมีคุณภาพ
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน (2525,765) ได้ให้ความหมายของคำว่าวิจารณ์ว่า หมายถึง การติชมโดยยึดหลักวิชาการโดยมีความรู้เชื่อถือได้
การวิจารณ์โดยทั่วไปหมายถึง การแสดงความคิดเห็น ติชม ตามความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม เพื่อการปรับปรุงแก้ไขผลงานนั้นๆ สมบูรณ์ยิ่งขึ้นโดยสุจริตใจ
ศิลปะวิจารณ์ จึงหมายถึง การแสดงความคิดเห็นต่อผลงานศิลปะ เช่นภาพเขียน ภาพปั้น และการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในรูปแบบต่างๆทั่วไป เพื่อการเสนอแนะแก้ไขปรับปรุงโดยสุจริตใจ
หลักการวิจารณ์งานศิลปตามหลักสุนทรียศาสตร์
ปัจจุบันศิลปินด้านทัศนศิลป์มีอิสระมากขึ้น แนวความคิด สร้างสรรค์ จินตนาการจึงไร้ขอบเขต ผลงานทางทัศนศิลป์จึงออกมาหลายรูปแบบผสมผสานด้วยเทคนิคและวิธีการที่แปลกใหม่ ทำให้ผู้ที่ชมผลงานยากที่จะเข้าใจเนื้อหาและความงาม ดังนั้นเพื่อให้ผู้ชมเข้าใจในทัศนศิลป์เบื้องต้น โดยเฉพาะงานจิตรกรรมและประติมากรรมควรดูและสังเกตดังนี้
1) ดูการ์ดที่ติดงานใกล้ผลงาน (ถ้ามี) บอกชื่อผู้สร้างผลงาน ชื่อผลงาน เทคนิคผลงาน ว่าทำจากอะไร แบบใด อย่างไร เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาเรื่องราวของผลงานเป็นอันดับแรก
2) ดูว่าเป็นศิลปะสาขาอะไร ทัศนศิลป์แขนงใด ลักษณะใด และประเภทอะไร เช่นสาขาวิจิตรศิลป์ ทัศนศิลป์แขนงจิตรกรรม ลักษณะการวาดเส้นประเภทภาพหุ่นนิ่ง
3) ดูสิ่งที่ทำให้เกิดมิติในผลงานทัศนศิลป์ ได้แก่ มิติในด้านรูปภาพและรูปทรง
4) ดูส่วนประกอบของความงาม จุด (ถ้ามี) เส้น 2 ประเภท รูปร่าง 3 ประเภท (ถ้ามี) รูปทรง 3 ประเภท ความรู้สึกของสีและสีตรงข้าม แสงเงา พื้นผิว จังหวะ ความกลมกลืนของเส้น สี รูปทรง และหลักของการจัดภาพ
5) ดูเกี่ยวกับการจัดภาพมี 2 แบบ คือ
5.1 แบบประจำชาติ 2 แบบ
5.1.1 แบบไทยประเพณีรูปแบบไทยเดิม
5.1.2 แบบไทยประเพณีรูปแบบไทยประยุกต์
5.2 แบบสากล 2 แบบ
5.2.1 แบบสากล แบบร่วมสมัยมี 3 รูปแบบ
(1) รูปแบบรูปธรรม
(2) รูปแบบกึ่งนามธรรม
(3) รูปแบบนามธรรม
5.2.2 แบบสากล แบบสมัยใหม่มี 2 รูปแบบ
(1) รูปแบบกึ่งนามธรรม
(2) รูปแบบนามธรรม
6) ดูทฤษฎีการถ่ายทอดทางทัศนศิลป์ เช่นทฤษฎีเหมือนจริง ทางปัญญา ฯลฯ
7) ดูเรื่องราวที่นำมาสร้างเกี่ยวกับเรื่องใด เช่น ประวัติศาสตร์ ศาสนา ชีวิตประจำวัน ฯลฯ
ดูคุณค่าทางความงามและคุณค่าทางเรื่องราว
คุณสมบัติของผู้วิจารณ์งานศิลปะ ผู้วิจารณ์ที่ดีจำต้องประกอบด้วยคุณสมบัติของความเป็นผู้รอบรู้และมีคุณธรรมประจำใจพอสรุปได้ดังนี้
1) เป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ทางศิลปะประเภทใดประเภทหนึ่ง ที่จะวิจารณ์โดยเฉพาะและรู้ละเอียดลึกซึ้ง
2) เป็นผู้มีจิตใจรักชื่นชมในศิลปะและสุนทรียภาพอย่างแท้จริง
3) เป็นผู้มีน้ำใจกว้างขวาง รักษาความเป็นกลาง ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น รู้จักประนีประนอมแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน
4) เป็นผู้ที่มีความสามารถเชื่อมโยงวิชาความรู้อื่นๆ กับทัศนศิลป์ได้เป็นอย่างดี
5) เป็นผู้ที่มีอุดมคติในการวิจารณ์ ไม่ใช้คำวิจารณ์เป็นเครื่องมือในการทำลายผู้อื่นมีความจริงใจปราศจากอคติใดๆ
6) เป็นผู้ที่มีน้ำใจเป็นประชาธิปไตย เคารพสิทธิเสรีภาพของศิลปินและสามารถสื่อความหมายให้ผู้อื่นเข้าใจได้ง่าย
7) เป็นผู้ที่มีอารมณ์ และความรู้สึกเยือกเย็น หลีกเลี่ยงความรุนแรง สามารถสรุปปัญหาที่เกิดจากอารมณ์และเหตุผลได้
สรุป ในการวิจารณ์ศิลปะใดๆ ย่อมเป็นการยากที่จะวิจารณ์ได้ถูกต้องเที่ยวแท้เสมอไปเพราะอาจมีภาพลวงตาทำให้ผู้วิจารณ์เกิดความเข้าใจผิดพลาด อันมีผลให้การวิจารณ์กลายเป็นนักประชาธิปไตยทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนี้
1) ประโยชน์ต่อวิจารณ์ผลงานศิลปะ
1.1 ทำให้ทราบและเข้าใจแนวคิดสร้างสรรค์ของผู้สร้างผลงานด้านศิลปะต่างๆ
1.2 ทำให้เป็นผู้มีหลักการบนพื้นฐานของปัญญา ที่สามารถรู้ให้เหตุผลตามเนื้อหาสาระที่ถูกต้อง
1.3 ทำให้ทราบถึงความเคลื่อนไหวของวงการศิลปะและสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน
1.4 ได้แสดงออกตามประสบการณ์ด้วยเหตุผลและมีความเที่ยงธรรม
1.5 ทำให้มีความรู้สึกนึกคิด ละเอียดและประณีตอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ
1.6 ทำให้เป็นผู้ค้นคว้าหาความรู้อยู่เสมอ มีความรักและความใกล้ชิดวงการศิลปะอย่างกว้างขวาง
1.7 มีความภาคภูมิใจที่ได้ชมผลงานที่ได้วิจารณ์ และขอสนับสนุนให้เจ้าของผลงานได้สร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพต่อสังคมต่อไป
2. ประโยชน์ต่อผู้สร้างผลงานทัศนศิลป์
2.1 มีโอกาสนำเสนอและอธิบายจุดมุ่งหมายแนวคิดสร้างสรรค์ในผลงานของตนเอง
2.2 รับทราบแนวความคิดและข้อมูลของผู้อื่น เพื่อนำไปปรับปรุง แก้ไข เพิ่มเติม และพัฒนาให้ผลงานของตนดีและมีคุณค่ายิ่งขึ้น
2.3 มีโอกาสแนะนำเทคนิคและวิธีการอย่างถูกต้อง
2.4 มีขันติ เมื่อถูกกล่าวติเตียนโดยตรงและรู้จักยอมรับความเป็นจริง
2.5 ผลงานถูกวิจารณ์เกิดการรับรู้ มีประสบการณ์มากขึ้น
2.6 จิตใจเกิดพลังอย่างมีประสิทธิภาพในการสร้างสรรค์ผลงานด้านทัศนศิลป์ที่มีเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อไป
2.7 เกิดความรู้สึกที่ดี มีความเข้าใจกันระหว่างผู้สร้างสรรค์ผลงานและผู้วิจารณ์
สรุป ในการทำงานศิลปะใดๆ ก็ตาม เมื่อทำขึ้นสำเร็จเป็นผลงานและปรากฏแก่สายตาของมนุษย์ทั่วไป ก็มักจะได้รับการกล่าวขาน ติชม ซึ่งอาจมีผลงานทั้งทางบวกและทางลบต่อผู้วิจารณ์ ดังนั้น เพื่อไม่ให้ครหาหรือติเตียนเกิดขึ้น การวิจารณ์ควรเป็นไปในแนวทางสร้างสรรค์ตัวบุคคลและสังคม ในลักษณะของการให้ข้อเสนอแนะ ส่งเสริมให้กำลังใจ สำหรับตัวผู้วิจารณ์หรือผู้ประเมินผลงานศิลปะ จำเป็นต้องมีความเข้าใจในเรื่องของสุนทรียภาพและทัศนศิลป์เฉพาะแขนงเป็นอย่างดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น